วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

คลับของคนชอบ bigbike

เริ่มต้นกันที่ตัวนี้ดีกว่าคับ     DUCATI

Ducati Monster เปิดตัวครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์เมืองโคลจญ์ ประเทศเยอรมันนีปี 1992 ในช่วงเวลาที่กระแสความนิยมยังคงอยู่ที่รถสปอร์ตสไตล์รถแข่งสนาม สำหรับ Ducati Monster ทีมออกแบบได้คิดนอกกรอบ สวนทางกับความนิยมในช่วงนั้น เน้นการออกแบบที่ดูไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย ขับขี่ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะการขับขี่สูงมากนัก
สำหรับโมเดล 2009 ทีมออกแบบใหม่นี้ได้ใช้้วลี “Less-is-More” เป็นแนวคิดหลักในการออกแบบรถที่ดูเรียบง่ายเช่นต้นตระกูลใน M 900 แต่ดีไซน์ภายนอกต้องสะดุดตาจี๊ดจ๊าดกว่าเดิม การใช้งานต้องเป็นรถที่ขับขี่ได้ง่าย เบานั่งต้องไม่สูงมากนัก มีมิติตัวรถใต้เบาะนั่งแคบ ตามด้วยองศาของชุดกันสะเทือนหน้าแค่ 24 องศา แต่ระยะออฟเซ็ทของแฮนด์กว้าง ทำให้มันเป็นรถรถที่พลิกพลิ้วในโค้งได้ง่ายเช่นรถสปอร์ต และก็ต้องซิกแซกในเมืองที่การจารจรหนาแน่นได้ดีด้วย
เครื่องยนต์ L-Twin ขนาด 696 ซีซี. 80 แรงม้า
เครื่องยนต์ของ M696 นั้นได้พัฒนาการต่อยอดมาจากเครื่องของ 695 โดยปรับปรุงเพิ่มแรงม้ามากว่ารุ่นก่อน 9% เป็น 80 แรงม้า HP และเพิ่มแรงบิดขึ้นจากรุ่นก่อน 11% เป็น 7 กิโลกรัม-เมตร การวางเครื่องยังคงเป็นแบบ 2 สูบ L-twin 90 องศา ขับเคลื่อนวาล์วไอดีไอเสีย (2 วาล์ว-สูบ) ด้วยเทคโนโลยี Desmodromic ช่วยให้อัตราเร่งไม่มีการ lag เหมือนรถที่ใช้สปริงวาล์วทั่วไป ส่วนชุดขับราวลิ้นใช้แบบสายพานไทมมิ่งออกแบบไว้ภายนอกฝาสูบช่วยให้การบำรุงรักษางานกว่าระบบโซ่ราวลิ้นที่ฝั่งไว้ภายในเครื่องยนต์
ปลอดภัยด้วยครัชต์ Ducati APTC
ระบบครัชต์ Ducati APTC ( Adler Power Torque Plate Clutch ) ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงบิดสูงๆ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดของชุดครัชต์ ขณะเดียวกันก็ป้องการการเกิด Back Torque หรือแรง Engine brake ที่มากเกินไปจากการลดเกียร์อย่างรวดเร็วซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่อย่างมาก โดยการทำงานแล้ว ชุดกลไกของครัชต์จะตัดจากการเกิด Back torque ให้เหลือแค่ 40 % โดยอัตรโนมัติเมื่อมีแรงดึงกลับของเครื่องยนต์ถึงจุดที่กำหนด ระบบ APTC นี้ถูกคิดค้นโดยทีมวิศวกรของ DUCATI และเริ่มนำมาใช้กับรถโปรดักชั่นทั่วไปตั้งแต่ Monster 620 ตั้งแต่ปี 2004
ระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ ขนาดทางเดินไอดี 45 มม.
นอกจากระบบวาล์วแบบ Desmodromic แล้วหัวใจหลักของกำลังเครื่องยนต์คือระบบส่งไอดีของ M696 คือชุดหัวฉีดอิเลคทรอนิกส์ ที่ควบคุมด้วย ECU ของ Siemens พร้อมกับท่อทางเดินไอดีที่กว้างขวางถึง 45มม. ทำให้กำลังที่ได้มากมายถึง 80 แรงม้า





สวยๆจาก DUCATI

มาดูรถฝั่งตะวันออกกันบ้างคับ    ซูซูกิ ฮายาบุสะ

ฮายาบูสะ มอเตอร์ไซค์ Suzuki Hayabusa 1300 ซูเปอร์สปอร์ตสายพันธุ์แรง
โครงสร้างตัวถัง “มอเตอร์ไซค์ Suzuki Hayabusa” ออกแบบมาอย่างแข็งแรง และน้ำหนักเบาด้วยวัสดุชั้นยอด ทวิน-สปา อะลูมิเนียมอัลลอยด์ เฟรม (Twin-Spar Aluminum-Alloy Frame) พร้อมโช้คอัพหน้า-หลัง KYB ที่ให้ประสิทธิภาพการหยุดทุกอัตราเร่งได้อย่างมั่นใจ เร้าใจไปกับเทคโนโลยี หัวฉีดดิจิตอล ที่นำมาใช้ร่วมกับระบบควบคุมเครื่องยนต์ด้วยกล่องสมองกลอัจฉริยะ(Engine Management System) หน่วยความจำขนาด 32 bit 1024 kb ไมโครโปรเซสเซอร์
สัมผัสประสบการณ์ความแรง ด้วยเครื่องยนต์ขุมพลัง 1,340 ซีซี 4 สูบ ให้การตอบสนองทุกอัตราเร่งในพริบตา พร้อมโหมดการขับขี่อัจฉริยะ S-DMS ที่ปรับเปลี่ยนการทำงานของเครื่องยนต์ได้ถึง 3 โหมด ตามความต้องการ ทั้งโหมด A ให้ความเร็วสูงสุดในสไตล์เรซซิ่ง โหมด B ให้ความเร็วระดับกลางความรู้สึกที่สปอร์ต และโหมด C กับการขับขี่ที่สบายในรูปแบบทั่วไปเน้นการประหยัดน้ำมัน



มาดูความแรงและความสวยของฮายาบุสะกันคับ


                                                 อีกตัวคับ  nc30


Bigbike ?
Bigbike คือคำที่ใช้เรียกรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆไปหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า สี่สูบ ขนาดของมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่ในที่นี้คือขนาดของเครื่องยนต์ เฟรม ล้อและยางของรถ รถที่เรียกว่าBigbikeจะมีความจุของเครื่องยนต์ตั้งแต่ 250 cc ขึ้นไปจนถึง 2400 cc ซึ่งในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีรูปแบบของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันออกไปซึ่งจะมีตั้งแต่สูบเดี่ยว ถึง 6 สูบ และจัดวางอยู่ในรูปแบบของสูบเรียงและสูบV ในส่วนระบบส่งกำลังก็จะมีตั้งแต่ระบบที่ใช้โซ่ ใช้เพลาขับ และใช้สายพาน เป็นต้น
Naked Bike เป็นชื่อที่ใช้เรียกรถ Bigbike ที่มีรูปแบบเป็นรถเปลือยแฟริ่งในส่วนด้านหน้า จะมีแฟริ่งในส่วนด้านท้ายของรถเท่านั้น ข้อดีของรถประเภทนี้คือสามารถใช้ขับขี่ในเขตชุมชนที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นได้ง่ายและสามารถระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ได้ดีกว่ารถ Bigbikeประเภทอื่นๆ และยังมีการออกแบบให้มีท่วงท่าในการขับขี่ที่ไม่ต้องก้มหรือโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจับแฮนด์มากนัก โดยมีการออกแบบให้แฮนด์อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงและมีเบาะที่ต่ำกว่ารถ Sport Bike
Sport Bike คือรถBigbikeที่มีการออกแบบมาเพื่อใช้ในการแข่งขันทางเรียบเนื่องจากรถประเภทนี้จะมีสมรรถนะของเครื่องยนต์และช่วงล่างสูงมากกว่ารถBigbikeประเภทอื่นๆ ซึ่งรถประเภทนี้มีท่วงท่าในการขับขี่แบบกึ่งนั่งกึ่งหมอบเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและทรงตัวในการใช้ความเร็วสูงๆและควบคุมอาการของรถในการเข้าโค้งได้เต็มประสิทธิภาพ
Touring BikeคือรถBigbikeประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในการเดินทางหรือท่องเที่ยวที่มีระยะทางไกลๆและใช้เวลาในการขับขี่ค่อนข้างนานโดยเฉพาะ ซึ่งรถประเภทนี้จะมีรูปทรงคล้ายกับรถ Sport Bike แต่จะมีตำแหน่งของแฮนด์ที่สูงกว่ารถSport Bike ท่าทางในการขับขี่จะคล้ายกับการขี่รถNaked Bike และรถ Touring Bikeนี้จะมีชิวล์ที่มีขนาดใหญ่เพื่อใช้บังลมและฝนที่จะเข้ามาปะทะผู้ขับขี่ในตอนที่ใช้ความเร็วสูงๆหรือขณะมีฝนตก
ชอปเปอร์ (อังกฤษ: chopper) คือรถBigbikeประเภทหนึ่ง เพราะเสียงของเครื่องยนต์ของรถประเภทนี้มีเสียงดังเป็นจังหวะๆ คล้ายเสียงของเฮลิคอปเตอร์นั่นเอง สาเหตุที่เสียงของรถ Chopper Bike มีเสียงดังเป็นจังหวะอย่างที่เคยได้ยินเพราะรถประเภทนี้มี 2สูบวางอยู่เป็นรูปตัว V และยังมีการจุดระเบิดพร้อมๆกัน จึงมีช่วงขอบเสียงเครื่องยนต์ดังเป็นจังหวะดังกล่าว รถประเภทนี้จะมีการออกแบบให้มีเบาะอยู่ต่ำกว่ารถ Bigbikeประเภทอื่น และมีตำแหน่งของแฮนด์ที่สูงอยู่ในระดับไหล่ผู้ขับขี่หรืออาจจะสูงกว่าแล้วแต่ผู้ขับขี่จะเลือกมาใส่
ขอขอบคุณ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี








อีกหนึ่งรุ่นที่สวยไม่แพ้กันคับ nc35